ความปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ ที่เหล่าช่างทั้งหลาย ไม่ควรมองข้าม และจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีอุปกรณ์ตัวช่วย เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์เซฟตี้ ,ป้ายสัญลักษณ์ในการทำงาน ,ผลิตภัณฑ์สะท้อนแสง เพื่อความปลอดภัยในเวลากลางคืน ,อุปกรณ์เพื่อสุขภาพ และที่สำคัญ ชุดยูนิฟอร์มที่เหมาะสมในการทำงานอย่าง ชุดหมีช่าง , ชุดช่าง , กางเกงช่าง หรือเสื้อช่าง เป็นต้น เพราะงานช่างต้องเกี่ยวข้องกับการใช้อุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ
และแน่นอนว่า อุบัติเหตุ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาโดยไม่คาดคิด และทันตั้งตัว ดังนั้น การสวมใส่ชุดยูนิฟอร์ม หรือเสื้อฟอร์มพนักงานที่ออกแบบมาสำหรับช่างนั้น จะช่วยป้องกัน หรือบรรเทาอุบัติเหตุ ที่อาจเกิดขึ้นได้ งานประเภทช่างนั้น ประกอบไปด้วยหลากหลายแขนง อาทิเช่น ช่างวิศวกรรม , ช่างไฟฟ้า , ช่างโลหะ , ช่างงานไม้ , ช่างก่อสร้าง หรือช่างอื่นๆ อีกมากมาย เป็นต้น
วิธีเพิ่มความปลอดภัยด้วยชุดยูนิฟอร์มช่าง
ก่อนที่เราจะทราบถึงการวิธีป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เราควรทราบถึงสาเหตุของอุบัติเหตุจากการทำงานช่างเสียก่อน เพื่อที่เราจะได้เลือกหาวิธีป้องกันที่เหมาะสม ซึ่งสาเหตุหลักสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุในการทำงานนั้น ในสายอาชีพช่างสามารถแบ่งออกเป็น 2 สาเหตุ ด้วยกัน ดังนี้
- สาเหตุที่ 1 : อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น พื้นที่ในการจัดเก็บวัสดุ หรืออุปกรณ์ไม่แน่นหนา และไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการรั่วไหลต่างๆ ทั้งจากของเหลว และก๊าซ, บริเวณพื้นที่ที่ปฏิบัติงานไม่เหมาะสม,แสงสว่างไม่พอเพียง ต่อการปฏิบัติงาน หรือไม่มีระบบควบคุมความปลอดภัยของไฟฟ้าที่ดีพอ อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือเกิดเพลิงไหม้ได้
- สาเหตุที่ 2 : อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานของช่างเอง เช่น การเลือกใช้เครื่องมือช่างโดยขาดความชำนาญ, การเคลื่อนย้ายวัสดุ หรืออุปกรณ์โดยพลการ, ความประมาทในขณะที่ปฏิบัติงาน, การไม่ตรวจเช็คอุปกรณ์เครื่องมือช่างก่อนการใช้งาน, การเคลื่อนย้ายวัสดุ หรืออุปกรณ์โดยพลการ หรือการไม่สวมใส่ชุดยูนิฟอร์ม หรือเสื้อฟอร์มพนักงานในขณะปฏิบัติงานช่าง เป็นต้น
ทั้ง 2 สาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น ก่อให้เกิดอันตรายจากงานช่างได้ ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยป้องกัน และบรรเทาอันตรายที่เกิดขึ้น จากการปฏิบัตงาน ซึ่งเริ่มต้นง่ายๆ จากตัวเราเอง ด้วยการเลือกสวมชุดยูนิฟอร์ม หรือเสื้อฟอร์มพนักงานที่เหมาะสม ต่องานช่างนั้นๆ อาทิเช่น ชุดหมีช่าง, ชุดช่าง, กางเกงช่าง หรือ เสื้อช่าง เป็นต้น เพราะอุบัติเหตุนั้น เกิดขึ้นได้ทุกเวลา โดยกระทันหัน และไม่คาดคิด
กลับสู่สารบัญการเลือกชุดยูนิฟอร์มสำหรับช่าง 3 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 : เลือกประเภทของชุดช่าง
เราต้องทราบประเภทของงานช่างก่อน เป็นอันดับแรก เพื่อที่จะออกแบบชุดยูนิฟอร์ม ให้เหมาะสมกับงานช่างนั้นๆ เพราะชุดช่าง มีหลายประเภท บางประเภท อาจมีแค่เสื้อฟอร์มพนักงานทั่วไป บางประเภท อาจเป็นชุดช่างจัดเต็มทั้งชุดอย่าง เช่น ชุดหมีช่าง แขนยาว หรือแขนสั้นก็เป็นได้ ดังนั้น เราควรทราบถึงประเภทของงานช่างเสียก่อน เพื่อที่จะนำมาซึ่งขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนที่ 2 : เลือกแบบของชุดช่าง
หลังจากขั้นตอนในข้อที่ 1 แล้ว ขั้นตอนการเลือกแบบ หรือการดีไซต์ ก็ควรจะต้องตอบโจทย์ในการทำงานมากที่สุด ซึ่งสำหรับชุดช่าง ก็มีแบบให้เลือกมากมาย อาทิเช่น ชุดหมีช่างแขนยาว , ชุดหมีช่างแขนสั้น , เสื้อช่างแขนยาว , เสื้อช่างแขนสั้น , กางเกงช่าง และเสื้อแจ็คเก็ตช่าง เป็นต้น อย่าลืมว่าต้องคำนึงถึงประโยชน์ต่อการใช้งาน และความปลอดภัยต่อช่างผู้ที่สวมใส่มาเป็นอันดับหนึ่ง
ขั้นตอนที่ 3 : เลือกเนื้อผ้าของชุดช่างให้เหมาะสม
นอกจากจะเลือกชุดยูนิฟอร์ม เพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงานแล้ว ควรคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้สวมใส่ เพราะการทำงานช่าง แน่นอนว่าเรื่องการเผชิญกับแดดร้อน หรืออยู่ในสถานที่ ที่อากาศไม่ค่อยถ่ายนัก ซึ่งเป็นเรื่องที่เหล่าช่างนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น หากเราจะมีชุดยูนิฟอร์มทั้งที การเลือกเนื้อผ้าให้เหมาะสมต่องานช่าง ก็เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง จะเลือกชุดยูนิฟอร์มเพื่อความปลอดภัยแล้ว ควรคำนึงถึงความสวมใส่แล้วสบายตัว จึงขอยกตัวอย่าง การเลือกเนื้อผ้าของชุดหมีช่าง ควรมีลักษณะของเนื้อผ้า หรือการออกแบบ ดังต่อไปนี้
- ผลิตจากผ้าเวสปอย(ซึ่งทำจากคอตต้อน หรือฝ้าย 100 %) เพิ่มแถบผ้าสะท้อนแสง เพื่อให้มองเห็นผู้สวมใส่ ชัดเจนในเวลากลางคืน
- เลือกซิปทองเหลือง เพื่อการใช้งานที่แข็งแรง และทนทาน
- ผลิตจากเนื้อผ้าคอตต้อนหนา แต่มีคุณสมบัติที่ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ส่งผลให้ผู้สวมใส่สบายตัว ขณะปฏิบัติงานแม้ในอากาศที่ร้อนจัด
- ออกแบบโดยให้มีช่องกระเป๋าหลายจุด เพื่อเอาไว้เก็บ หรือใส่อุปกรณ์ขณะทำงาน หรือมีกระเป๋าแบบกล่อง เพื่อให้ใส่ของให้ได้มากขึ้น
การเลือกเนื้อผ้า เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับการเลือกชุดช่าง เพราะงานช่างแต่ล่ะสาขานั้น ปฏิบัติงานในพื้นที่ และสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน เราจึงควรเลือกใช้ชนิดเนื้อผ้าให้ถูกต้อง และเหมาะสมกับการปฏิบัตงาน
กลับสู่สารบัญชุดยูนิฟอร์มช่างมีวัสดุ และการตัดเย็บอย่างไร
การสวมใส่ชุดยูนิฟอร์มสามารถบ่งบอกถึง อาชีพของแต่ล่ะคน ทำให้รู้สึกเป็นทีมงานเดียวกัน และเท่าเทียมกัน เนื่องจากทุกคนสวมใส่ชุดที่เหมือนกัน และทำให้ไม่มีข้อแตกต่างในเรื่องการแต่งกาย ทำให้ไม่นำมาเป็นข้อเปรียบเทียบในด้านของฐานะ หรือตำแหน่ง ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือขององค์กร และภาพลักษณ์ขององค์กร
เนื่องจากการสวมใส่ชุดยูนิฟอร์มที่เหมือนๆ กัน นอกจากนั้นชุดยูนิฟอร์ม ยังเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน ซึ่งในบางองค์กรนั้น ออกแบบชุดยูนิฟอร์มมา เพื่อช่วยเพิ่มความสบายแก่ผู้ที่สวมใส่ เพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย เสริมสร้างความปลอดภัย ทั้งหมดนั้น เพื่อที่พนักงานที่สวมใส่ จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็นช่างไม้ ช่างแอร์ ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ซึ่งช่างเหล่านี้ บางคนทำงานอยู่กลางแจ้งพบเจอแดดร้อน ฝุ่นควัน และมลภาวะ บางคนทำงานในออฟฟิศ บางคนทำงานโรงงานอุตสาหกรรม เสื้อยูนิฟอร์มจึงควรมีเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ซึมซับเหงื่อ เพื่อที่จะทำให้ไม่เกิดกลิ่นอับ หรือความร้อนที่มากเกินไปในระหว่างการทำงาน
และในส่วนของกางเกงช่าง ควรเลือกรูปแบบที่สวมใส่สบาย ไม่ร้อนระบายอากาศได้ดี ลักษณะยืดหยุ่น ไม่รัด และเข้ารูปจนเกินไป เพื่อที่จะสามารถใส่ปฏิบัติงานได้ ในหลากหลายรูปแบบ และมีความคล่องตัวในเวลาทำงาน
ข้อเปรียบเทียบชุดยูนิฟอร์มช่าง กับอาชีพอื่นๆ
- เสื้อช่าง กางเกงช่าง ชุดช่างจะมีแถบผ้าที่สะท้อนต่อแสง
เสื้อช่าง และกางเกงช่างนั้น สิ่งสำคัญที่จะต้องมีคือแถบผ้าที่สะท้อนแสงได้ เนื่องจากบางครั้งต้องทำงานในความมืด หรือในที่ที่แสงสว่างไม่เพียงพอ จะทำให้ผู้สวมใส่ เห็นชัดในเวลากลางคืน ทำให้ปลอดภัยจากการเฉี่ยวชน จากยานพาหะนะต่างๆ เช่น พนักงานซ่อมรถ ที่ต้องยกรถออกจากท้องถนน หรือทางด่วนในเวลากลางคืน
- ชุดช่างมีช่องแขนด้านซ้ายมีช่องใส่ปากกา/ คัตเตอร์/ ไขควง จำนวน 2 ช่อง
เพราะอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อการจดบันทึกเป็นสิ่งสำคัญ ที่เกือบทุกอาชีพ จำเป็นต้องมีไว้ใกล้ๆมือ จุดเด่นของเสื้อช่าง ที่ไม่เหมือนกับชุดยูนิฟอร์มของอาชีพไหนคือ ช่องเหน็บปากกาที่อยู่บริเวณทางด้านแขนซ้าย ซึ่งจริงอยู่ว่าชุดยูนิฟอร์มในอาชีพอื่นๆเอง ก็มีช่องสำหรับใส่ปากกาเช่นกัน ดังที่เห็นได้จากการเหน็บปากกา บริเวณเสื้อกาวน์ของแพทย์ หรือเหน็บปากกาไว้ที่ชุดยูนิฟอร์มของพยาบาล
แต่อาชีพเหล่านั้น ไม่ได้มีช่องเหน็บปากกาโดยเฉพาะ แต่อาศัยเหน็บไว้ที่ กระเป๋าเสื้อด้านหน้าเท่านั้น เนื่องจากการทำงานของช่าง อาจจะต้องมีอิริยาบททั้งการก้ม เงย หรือการปีนขึ้นที่สูง เพราะฉะนั้นการเหน็บปากกาไว้ด้านข้างของเสื้อช่าง จึงมีความสะดวกมากกว่า และป้องกันการที่ปากกาจะตกพื้นได้อีกด้วย นอกจากนี้ช่องบริเวณแขนด้านซ้าย ยังสามารถใส่คัตเตอร์ หรือไขควง ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักของช่างเพิ่มเติมได้อีกด้วย
- เนื้อผ้าที่ใช้การตัดเย็บชุดช่าง
ชุดยูนิฟอร์มของช่าง มักนิยมตัดเย็บด้วยผ้าคอมทวิว และผ้าเวสปอยท์ ในส่วนของผ้าคอมทวิว จะมีสัดส่วนของ Polyester 35% และ Rayon 65% มีคุณสมบัติคือ เป็นผ้าทอลายสอง เนื้อหนาปานกลาง มีน้ำหนัก ทิ้งตัวดี เหมาะสำหรับทำชุดพนักงาน ในโรงงาน และผ้าเวสปอยท์ จะผลิตจาก Cotton 100% ซึ่งมีคุณสมบัติคือ สวมใส่สบาย ไม่ร้อน ระบายอากาศได้ดี เหมาะสำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับความร้อน และไฟ และซึ่งผ้าเวสปอยท์ จะสามารถป้องกันสะเก็ตไฟได้ดี เช่น งานที่เกี่ยวกับช่างเชื่อม และช่างเจียรเหล็ก หรือ ช่างหล่อเหล็ก
กลับสู่สารบัญอุปกรณ์เซฟตี้อื่นๆ สำหรับงานช่าง
แว่นตาเซฟตี้ รองเท้าเซฟตี้ หมวกนิรภัย หมวกเซฟตี้ แว่นตานิรภัย หน้ากาก , ที่อุดหู และที่คลอบหู เข็มขัดพยุง สิ่งเหล่านี้ ถือเป็นอุปกรณ์งานช่าง ที่ขาดไม่ได้ของช่างทุกประเภท ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ส่วนหนึ่ง ของชุดยูนิฟอร์มช่างได้ด้วย แถบสะท้อนแสง ที่ทำให้สังเกตุได้ในความมืด ช่องใส่คัตเตอร์ และปากกา
สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ชุดยูนิฟอร์มช่าง แตกต่างจากชุดยูนิฟอร์มของอาชีพอื่นๆ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า อาชีพช่าง ก็ยังสามารถแบ่งแยกย่อยไปได้อีกหลายสาขา เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างก่อสร้าง ช่างแอร์ ช่างประปา ช่างยนต์ ที่ก็ยังคงสวมใส่ชุดยูนิฟอร์ม ที่มีความคล้ายคลึงกัน เนื่องจากลักษณะงาน มีความแตกต่างกันไป ในแต่ละสถานการณ์
ชุดยูนิฟอร์ม ชุดช่าง – ประปา
ช่างประปามักจะพบเจอ และสัมผัสกับน้ำ ในขณะที่ปฏิบัติงาน ทำให้ชุดช่างที่เหมาะสมกับช่างประปา ควรเป็นชุดที่ไม่อุ้มน้ำ หรือกันน้ำ เนื้อผ้าแห้งไว เพื่อที่จะไม่รู้สึกเปียก หรืออับในเวลาที่ปฏิบัติงาน เพราะถ้าหากชุดอุ้มน้ำแล้ว อาจทำให้เกิดการอับชื้น จะทำให้ช่างทำงานได้ลำบากมากขึ้น
ดังนั้นการมีชุดช่างที่มีเนื้อผ้าที่กันน้ำ และแห้งไว ยังช่วยในเรื่องของแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำ ไม่ให้สัมผัส หรือเข้าสู่ร่างกายของเราได้ ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นอีกด้วย ซึ่งถุงมือ และรองเท้าที่มีลักษณะหนา และสามารถกันน้ำได้ ก็เป็นอีก 2 สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ที่ช่างประปาจำเป็นจะต้อง ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ผ้าที่แห้งไวที่แนะนำก็คือ ผ้าที่ทำจาก polyester 100 percent เช่น ผ้าดีวาย ผ้าร่ม เป็นต้น
ชุดยูนิฟอร์ม ชุดช่าง – ไฟฟ้า
ช่างไฟฟ้า จำเป็นที่จะต้องทำงานกับกระแสไฟฟ้าตลอดเวลา ทั้งใน และนอกสถานที่ นอกจากจะต้องมีเครื่องมือที่ครบครันแล้ว การมีชุดช่างไฟฟ้าที่ดี และเหมาะสมก็เป็นสิ่งจำเป็นมากๆสิ่งหนึ่งสำหรับช่างไฟฟ้าเช่นกัน ซึ่งหากสวมใส่ชุดช่างที่ไม่เหมาะสมกับการทำงานไฟฟ้า อาจจะมีการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า เข้าสู่ร่างกาย และอาจจะก่อให่้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ชุดยูนิฟอร์มของช่างไฟฟ้า จึงต้องมีความเป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี สามารถป้องกันอันตราย ที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าได้ในระดับที่ดี ชุดยูนิฟอร์มที่เหมาะสมคือจั๊มสูท หรือชุดหมีช่าง ที่ทำจากผ้าฝ้ายที่มีความหนา และถุงมือยางกันไฟฟ้า ที่สามารถทนต่อแรงดันไฟฟ้าได้ และควรสวมใส่รองเท้าบูทที่ทำจากยางสังเคราะห์เนื้อหนา เนื่องจากสามารถทนกระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างไฟฟ้าลัดวงจร ก็จะทำให้ผู้สวมใส่ปลอดภัยเ พราะได้สวมใส่เครื่องป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้าไฟผ่านได้
ชุดยูนิฟอร์ม ชุดช่าง – เครื่องยนต์
ช่างยนต์เป็นช่างที่มักจะอยู่กับเครื่องยนต์ น้ำมัน ความร้อน และฝุ่นควัน ทำให้ชุดยูนิฟอร์มของช่างยนต์ มักจะเปื้อนสี ฝุ่นควัน หรือคราบน้ำมันเสมอ ชุดช่างยนต์ จึงควรเป็นชุดยูนิฟอร์มที่ผ้าไม่หนามาก สามารถทำความสะอาดได้ง่าย มีสัดส่วนของกระชับ และพอดีกับร่างกาย เนื่องจากช่างยนต์จะต้องพบเจอกับส่วนประกอบของเครื่องยนต์ ที่ทั้งเล็ก และใหญ่ แขนเสื้อ หรือชายเสื้อที่ไม่กระชับ และพอดีตัวอาจจะไปเกาะติดชิ้นส่วนอื่นๆ ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการทำงานได้ และอาจก่อใ้ห้เกิดอันตรายขณะทำงานได้
กลับสู่สารบัญสรุป
เนื่องจากอาชีพช่าง เป็นอาชีพ ที่มีเปอร์เซ็นในการทำงานบนความเสี่ยงค่อนข้างสูง หากเลือกใช้ยูนิฟอร์มที่ตัดเย็บ อย่างไม่ได้มาตรฐาน เช่น เลือกผ้าคุณภาพต่ำมาตัดเย็บ ชุดช่างที่ไม่มีผ้าแถบที่สะท้อนแสง ชุดไม่ทนต่อความร้อน หรือระบายอากาศได้ไม่ดี หรือการที่มีช่องสำหรับเก็บอุปกรณ์ไม่ครบ
อาจจะทำให้ช่างทำงานได้ไม่สะดวก นำไปสู่การทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เพราะฉะนั้นการเลือกชุดยูนิฟอร์มช่างที่ได้มาตราฐาน จัดเป็นการอำนวยความสะดวกให้อาชีพ และเพิ่มเติมความสบายให้กับผู้สวมใส่ และความน่าเชื่อถือ ต่อผู้รับบริการ ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย