มาทำความรู้จักกับ แอลกอฮอล์ Food Grade กัน เพื่อจะเลือกใช้ ได้อย่างถูกต้อง

แอลกอฮอล์ Food Grade

ด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ยังคงมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาฝุ่นละออง และมลภาวะทางอากาศ ที่เราต้องสัมผัสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงมากมาย ที่ก่อให้เกิดการเจ็บป่วย

ดังนั้น การรักษาความสะอาดของร่างกาย จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค และมลภาวะต่างๆ ปัจจุบันนี้เราต้องใช้ชีวิตประจำวันแบบวิถีใหม่ New Normal โดยรวมไปถึงการสวมแมสก์ หรือหน้ากากอนามัย ในขณะอยู่ในที่สาธารณะ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่สัมผัสพื้นผิวต่างๆ ควบคู่กันไปด้วย

แต่แอลกอฮอล์ที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดนั้น มีมากมายหลายประเภท เราทราบ หรือไม่ ว่า แอลกอฮอล์ที่ใช้อยู่นั้น เป็นแอลกอฮอล์ Food Grade หรือแอลกอฮอล์ประเภทอื่นๆ  มีความปลอดภัยต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันมากน้อยแค่ไหน วันนี่เราจะมาศึกษาจากบทความ เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ เพื่อความมั่นใจ และปลอดภัย ว่าเราจะเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง

ประเภทของแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆ

เอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol)

เรียกอีกอย่างนึงว่า เอทานอล (Ethanol) เกิดจากการแปรรูปพืชผลทางเกษตรประเภทแป้ง และน้ำตาล เช่น มันสำปะหลัง, อ้อย, กากน้ำตาล และข้าวโพด ทำให้แอลกอฮอล์ชนิดนี้ สามารถรับประทาน สัมผัส หรือเข้าสู่ร่างกายได้ สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ แต่ขึ้นอยู่กับระดับปริมานแอลกอฮอล์ที่ผสมอยู่ ว่ามีมากน้อยเพียงใด มีคุณสมบัติคือ ใส ไม่มีสี ระเหยได้ง่าย มีจุดเดือน 78 องศาเซลเซียส รวมไปถึง มีการติดไฟได้ง่าย โดยเอทิลแอลกอฮอล์ สามารถจัดกลุ่มแยกย่อยได้เป็นอีก 2 เกรดคือ

  • แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็นเอทิลแอลกอฮอล์ถึง 99.9% ที่มีคุณภาพระดับดีที่สุด มีความปลอดภัย และถูกนำไปใช้ในทางด้านการแพทย์ การผลิตยารักษาโรค รวมไปถึงแอลกอฮอล์ Food Grade (ฟู้ด เกรด) ซึ่งสามารถรับประทานได้ ส่วนใหญ่ใช้ในงานด้านเวชสำอาง อาหาร เครื่องดื่ม และถูกนำไปเป็นส่วนผสมกับ เครื่องดื่่มแอลกอฮอล์ต่างๆ เช่น สุรา วอดก้า เบียร์ เหล้า ไวน์ เป็นต้น
  • แอลกอฮอล์เกรดคอมเมอร์เชียล (Commercial Grade) เป็นเอทิลแอลกอฮอล์ 95% แอลกอฮอล์ประเภทนี้ ไม่สามารถรับประทานได้ แต่ไม่ได้มีผลเสียที่เกิดขึ้นกับผิวหนัง จึงนิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำสเปรย์ฉีดพ่น หรือเป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางต่างๆ มีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดมะร็ง และสามารถฆ่าเชื้อโรคได้

ไอโซโพรพานอล (Iso-Propanol – IPA)

ใช้เป็นยาล้างแผล รวมถึงเป็นกลุ่มยาสามัญประจำบ้าน หรือสารละลาย สารทำความสะอาดในห้องปฏิบัติการ เป็นแอลกอฮอล์ค่อนข้างมีกลิ่นฉุน และมักจะมีการผสมสีฟ้าสด เพื่อให้เห็นเด่นชัด ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแยกประเภทออกได้จากเอทิลแอลกอฮอล์ สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ แต่ไม่สามารถรับประทานได้

เมทิลแอลกอฮอล์ (Methyl Alcohol)

มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งชื่อว่า เมทานอล (Methanol) เป็นแอลกอฮอล์รับประทานไม่ได้ มีจุดเดือด 65 องศาเซลเซียส ติดไฟได้ง่าย ระเหยได้ง่าย เหลวไม่มีสี หากสัมผัสโดนร่างกาย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง และหากสูดดมมากเกินไป อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้ ส่วนใหญ่ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรม งานสีทาไม้ แลกเกอร์เคลือบไม้ น้ำมันเคลือบ น้ำยาล้างเล็บ ไปจนถึงการใช้เป็นเชื้อเพลิง

กลับสู่สารบัญ

เรามารู้จัก แอลกอฮอล์ Food Grade กัน

เป็นแอลกอฮอล์อีกชนิดหนึ่ง ที่มีแอลกอฮอล์บริสุทธิ์มีค่าความเข้มข้น 96% ขึ้นไป ผลิตจากกากน้ำตาล โดยใช้กระบวนการกลั่น ผลิตออกมาเพื่อใช้สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม หรือเวชสำอาง สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งจะไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย

เจลแอลกอฮอล์ Food Grade น่าใช้มากกว่าแอลกอฮอล์ประเภทอื่นๆ อย่างไร

เพราะแอลกอฮอลมีมากมายหลายชนิด บางประเภทมีประสิทธิภาพต่ำ ในการกำจัดเชื้อโรค เช่น เมทิลแอลกอฮอล์ อีกทั้งยังมีโทษ ต่อผิวหนัง และร่างกายมากกว่าประโยชน์ ส่วนเอทิลแอลกอฮอล์ที่สามารถฆ่าเชื้อโรค ทั้งไวรัส และแบคทีเรียได้ เหมาะสำหรับการนำมาทำเจลล้างมือ สเปรย์ล้างมือ

เบื้องต้นจะต้องมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์อย่างต่ำอยู่ที่ 70% โดยการใช้แอลกอฮอล์ Food Grade ก็เพียงพอสำหรับฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ได้ เพราะมีคุณสมบัติ และมาตรฐานในระดับที่เท่ากับการใช้แอลกอฮอล์ Pharma Grade ในราคาที่เหมาะสมกับผู้บริโภคทั่วไป

แต่การที่คุณจะเลือกใช้เพื่อล้างมือ หรือกำจัดเชื้อโรคทั่วไปนั้น ก็ไม่ควรมีความเข้มเข้นเกิน 90% เพราะจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อโรคอื่นๆ เนื่องจากยิ่งแอลกอฮอล์ที่มีระดับความเข้มข้นมาก

ตั้งแต่ 91% ขึ้นไป จะยิ่งมีกาารระเหยที่เร็ว การที่แอลกอฮอล์มีความเข้มข้นมากเกินไป ทำให้ทำลายเชื้อโรคได้เพียงแค่ภายนอกของเซลล์เท่านั้น ดังนั้น การเลือกเจล และสเปรย์แอลกอฮอล์ ควรดูปริมาณฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยสูงสุด

กลับสู่สารบัญ

แอลกอฮอล์ Food Grade สังเกตุได้อย่างไร

  • แอลกอฮอล์ควรมีหลักฐาน หรือเอกสารบ่งบอกแหล่งผลิต มีสัญลักษณ์ อย. รับรอง และระบุเลขจดแจ้ง ที่สามารถตรวจสอบรายละเอียดย้อนหลังได้ เป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้มากที่สุด โดยการอ่านรายละเอียดบนฉลากบนบรรจุภัณฑ์ หรือเอกสารที่แนบมากับผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ Food Grade นั้นๆ พร้อมทำความเข้าใจก่อนใช้งานทุกครั้ง อย่างครบถ้วน
  • เมื่อทาเจล หรือฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ Food Grade บนมือ หรือผิวหนัง เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 20 วินาที จนแอลกอฮอล์ระเหยแล้ว จะต้องไม่หลงเหลือกลิ่นใดๆ บริเวณที่ฉีด
  • เป็นแอลกอฮอล์ที่มีลักษณะใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นฉุน หรือกลิ่นน้ำหอมพิเศษต่างๆ

แอลกอฮอล์ Food Grade มีข้อดีอย่างไร

แอลกอฮอล์แบบที่เป็นฟู้ดเกรดนั้น มีข้อดีคือ มีความบริสุทธิ์มากกว่าแอลกอฮอล์ทั่วไป ทำให้เมื่อใช้ ผิวหนังจะปลอดภัยมากกว่า แล้วยังมีรสชาติที่ไม่ขม เพราะไม่มีการใส่สารปรุงแต่งลงไปเพิ่มเติมเช่น ไม่ใส่น้ำหอม ไม่ใส่สี จะมีประโยชน์มากในยุคปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด จึงทำให้ทุกๆ ธุรกิจจำเป็นที่จะต้องมี

แอลกอฮอล Food Grade นี้ ยังใช้ได้ในหลากหลายธุรกิจ เช่น โรงแรม อาหาร และอุตสาหกรรมพลาสติก เพราะจุดเด่นของแอลกอฮอล์ฟู้ดเกรดคือ ความบริสุทธิ์ ไม่มีสี รสชาติ หรือกลิ่น เจือปน รวมถึง ได้รับมาตรฐานรับรองด้านความปลอดภัยจากองค์กรต่างๆ ที่เชื่อถือได้ ทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายของเรา

กลับสู่สารบัญ

สรุป

เชื้อโรคนั้นมีอยู่ทุกที่ ไม่ว่าจะรับประอาหาร ออกไปพบปะผู้คนภายนอก หรือแม้แต่กระทั่ง จะเข้าห้องน้ำ เชื้อโรคจะสามารถติดตามมือ หรือสิ่งของได้ตลอดเวลา และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณ อยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเกิดอาการเจ็บป่วย เพราะฉะนั้น การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์น้ำ หรือแอลกอฮอล์เจล จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก แอลกอฮอล์นั้นมีบทบาทสำคัญ ในการช่วยให้คุณห่างไกลจากเชื้อโรค

หากคุณใช้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยให้คุณห่างไกลจากเชื้อโรคแล้ว ยังช่วยปกป้องคนที่คุณรักจากเชื้อโรคได้อีกด้วย เนื่องจากการล้างมือ อาจจะไม่สะดวกเสมอไปในบางกิจกรรม การมีแอลกอฮอล์พกพา จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมีในยุคปัจจุบัน เพราะทั้งพกพาสะดวก ใช้ง่าย ระเหยเร็ว ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้เมื่อใช้อย่างถูกวิธี และเหมาะสม